นายอบิจิต ดัดต้า กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น (SCG International Corporation) ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับนายเอสลาม ลัดวาน กรรมการผู้จัดการของ บริษัท บูน่า อัล มัมลาก้า (BUNA AL MAMLAKA) ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่ของซาอุฯ เพื่อนำเทคโนโลยีการก่อสร้างรักษ์โลกไปใช้ในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งการผสานความร่วมมือนี้นับเป็นกลยุทธ์นึงของ เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ที่จะบุกตลาดในภูมิภาค SAMEA (เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิภาคของโลกที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตสูง
ความร่วมมือนี้มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีด้านการก่อสร้างอย่างคอนกรีตสมรรถนะสูง (Ultra High-Performance Concrete : UHPC) ซึ่งจะนำไปใช้ในโครงการก่อสร้างของ บูน่า ด้วยการใช้ระบบ Jacketing เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้าง รวมถึงการย่อยอดนวัตกรรมอื่นๆของเอสซีจี เช่น เทคโนโลยีคอนกรีตผสมเสร็จ (SCG Ready Mix Concrete Technology) และเครื่องพิมพ์ 3 มิติ (SCG 3D Printing) นอกจากนี้นวัตกรรมวัสดุก่อสร้างของ เอสซีจี จะถูกนำไปแสดงและจัดจำหน่ายในร้านวัสดุก่อสร้าง ในเครือของบริษัท SUMOU Holding (ซูมู โฮลดิ้ง) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บูน่า อัล มัมลาก้า (BUNA AL MAMLAKA ) ในประเทศซาอุดีอาระเบียต่อไป
นายอบิจิต ดัดต้า กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้ เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ในฐานะพาร์ทเนอร์ด้านซัพพลายเชนครบวงจร มีเป้าหมายที่จะนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีการก่อสร้างรักษ์สิ่งแวดล้อมของ เอสซีจี ไปสู่ตลาดโลก และภูมิภาค SAMEA ผ่านโปรเจคการก่อสร้างต่างๆของ บูน่า และหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้สามารถต่อยอดการสร้างเครือข่ายทางการค้า ระหว่างประเทศซาอุฯ ประเทศไทย รวมไปถึงประเทศต่างๆในอาเซียนอีกด้วย“
“ผมรู้สึกยินดีที่ บูน่า อัล มัมลาก้า ได้ร่วมมือกับ เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล แม้ว่าผลลัพธ์อาจไม่ปรากฏให้เห็นทันที แต่เรามั่นใจว่าการใช้เทคโนโลยีของ เอสซีจี จะเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของเราในตลาดซาอุดีอาระเบีย ความร่วมมือนี้จะไม่เพียงแต่ปรับปรุงโครงการของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดตัวเทคโนโลยีการก่อสร้างสีเขียวในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ 2030 ของซาอุดีอาระเบีย” นายเอสลาม ลัดวาน กรรมการผู้จัดการของ บริษัท บูน่า อัล มัมลาก้า กล่าว