
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า การเคหะแห่งชาติได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแนวนโยบายของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ภายใต้พันธกิจสำคัญ (Flagship Projects) 9 ด้าน โดยเฉพาะในด้าน “การพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพและปลอดภัย” พร้อมด้วยการกำกับดูแลของคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ เพื่อยกระดับความมั่นคงปลอดภัยของที่อยู่อาศัยกว่า 600 โครงการทั่วประเทศโดยร่วมมือกับสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย นำโดย ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมฯ มูลนิธินายช่างไทยใจอาสา โดย นายวสวัตติ์ กฤษศิริธีรภาคย์ เลขาธิการมูลนิธิ ฯ และการไฟฟ้านครหลวง (MEA) เพื่อวางรากฐานความปลอดภัยที่มั่นคงและยั่งยืน

นายทวีพงษ์ กล่าวว่า “การเคหะแห่งชาติเห็นความสำคัญสูงสุดของความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยเราดำเนินงานเชิงรุกและต่อเนื่อง เพื่อยกระดับมาตรฐานความมั่นคงของอาคารให้สอดคล้องกับสถานการณ์ภัยธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการอยู่อาศัยอย่างปลอดภัยและยั่งยืน” ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติได้ร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร ดำเนินการตรวจสอบความมั่นคงของอาคารเบื้องต้นไปแล้วบางส่วนระหว่างวันที่ 28–29 เมษายน 2568 ในกลุ่มอาคารชุดพักอาศัย 8 โครงการ ได้แก่ คลองจั่นเพลส, บ้านศรีนวมินทร์ 1-2, บ้านเอื้ออาทรบึงกุ่ม, บ้านเอื้ออาทรบางบัวทอง 1, บ้านเอื้ออาทรบางบัวทอง 2 (บางกรวย-ไทรน้อย), บ้านเอื้ออาทรบางใหญ่ (วัดพระเงิน), บ้านเอื้ออาทรนนทบุรี (กันตนา) และบ้านเอื้ออาทรบางใหญ่ซิตี้ โดยในวันที่ 17–18 พฤษภาคม 2568 จะมีการอบรมเจ้าหน้าที่และทีมวิศวกร ณ ห้องประชุม ชั้น 3 อาคารสันทนาการ (อาคาร 5) การเคหะแห่งชาติ สำนักงานใหญ่ ในหัวข้อ “อันตรายจากรอยแตกร้าว และแนวทางการตรวจสอบอาคารเบื้องต้นหลังเหตุแผ่นดินไหว และการเสื่อมสภาพทางโครงสร้าง” ก่อนลงพื้นที่จริง เพื่อสำรวจและตรวจสอบอาคารในเขตกรุงเทพฯ /ปริมณฑล และภูมิภาคทั่วประเทศ

สำหรับแผนการดำเนินงานระยะถัดไป จะครอบคลุมพื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ โครงการเคหะชุมชนดินแดง ห้วยขวาง ทุ่งสองห้อง รวมถึงโครงการอื่น ๆ ในกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม และสมุทรสาคร ซึ่งเป็นพื้นที่เขตเมืองที่มีอาคารพักอาศัยหนาแน่น และมีความเสี่ยงจากภัยแผ่นดินไหวสูง ก่อนจะขยายผลสู่โครงการที่อยู่อาศัยในภูมิภาคทั่วประเทศ โดยการดำเนินงานทั้งหมดจะยึดหลัก “มีแผน มีระบบ มีประสิทธิภาพ” เพื่อยกระดับความปลอดภัยอย่างทั่วถึง ครอบคลุมทุกพื้นที่ และยั่งยืน
“ภารกิจนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของการเคหะแห่งชาติในการส่งเสริมคุณภาพชีวิต สร้างสรรค์สังคมที่แข็งแรงและแสดงให้เห็นถึงพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวผ่านภัยธรรมชาติอย่างมั่นคง” นายทวีพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย