สมาคมไทยรับสร้างบ้าน (Thai Home Builders Association: THBA) โดย นายนิรัญ โพธิ์ศรี นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน เผยผลสำรวจภาพรวมการแข่งขันตลาดรับสร้างบ้านพบว่า กลยุทธ์การตลาดที่ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านนำมาใช้แข่งขันหรือจับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของตัวเองมีความหลากหลายแตกต่างกันไป โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ 1.กลุ่มรับสร้างบ้านด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัย 2.กลุ่มรับสร้างบ้าน One Stop Service (ออกแบบ-สร้างบ้าน ตกแต่งภายใน จัดสวน) 3.กลุ่มรับสร้างบ้านประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 4.กลุ่มรับสร้างบ้านหรือคฤหาสน์หรู และสุดท้าย 5.กลุ่มรับสร้างบ้านราคาประหยัด
ทั้งนี้พบว่า “กลุ่มรับสร้างบ้านราคาประหยัด” จัดเป็นกลุ่มที่มีจำนวนผู้ประกอบการแข่งขันกันอยู่มากที่สุด โดยกลุ่มนี้จะเน้นชูจุดขายเรื่องมีแบบบ้านสวยให้เลือกปลูกสร้าง พร้อมบริการติดต่อราชการและธนาคาร (แบบครบวงจร) ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการรายใหม่หรือเข้ามาแข่งขันในตลาดรับสร้างบ้านได้ไม่นาน เน้นจับกลุ่มสร้างบ้านราคาตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป
ในส่วนของ “กลุ่มรับสร้างบ้าน One Stop Service (ออกแบบ-สร้างบ้าน ตกแต่งภายใน จัดสวน)” กลุ่มนี้ชูจุดขายเรื่องบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่ออกแบบ ก่อสร้างบ้าน-ตกแต่งภายใน และจัดสวนหรือแลนด์สเคป ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการที่มีพื้นฐานมาจากสถาปนิก หรือเป็นผู้ประกอบการรับสร้างบ้านที่มีประสบการณ์มานานกว่า 30 ปี เน้นรับสร้างบ้านมูลค่ารวม 10 ล้านบาทขึ้นไป
ลำดับถัดมา “กลุ่มรับสร้างบ้านด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัย และ กลุ่มรับสร้างบ้านประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” โดยทั้ง 2 กลุ่มนี้ชูจุดขายความเป็นผู้นำเทคโนโลยีก่อสร้าง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัย หรือความปลอดภัยต่อชีวิตและสุขภาพ เช่น ระบบโครงสร้างสำเร็จรูป, ระบบระบายอากาศ-สร้างอากาศบริสุทธิ์, วัสดุ-อุปกรณ์ช่วยเหลือผู้สูงวัย ฯลฯ โดยเน้นให้เห็นถึงความแตกต่าง และความคุ้มค่าที่ได้รับทั้งในระยะสั้น-ระยะยาว แม้ต้องจ่ายในราคาสูงกว่าผู้ประกอบการรับสร้างบ้านทั่วไป หลัก ๆ เน้นจับกลุ่มลูกค้าที่มีปัญหาสุขภาพ กลุ่มลูกค้าแนวคิดทันสมัย รับผิดชอบต่อสังคมและมีกำลังซื้อสูง
สุดท้าย “กลุ่มรับสร้างบ้านหรือคฤหาสน์หรู” กลุ่มนี้ชูจุดขายสร้างบ้านที่บ่งบอกฐานะ (ความร่ำรวย) ด้วยรูปทรงแบบบ้านหรือคฤหาสน์และการตกแต่งภายใน-ภายนอกที่โชว์ความอลังการ หลัก ๆ จะเน้นจับกลุ่มลูกค้าเฉพาะ (Niche Market) แต่กระเป๋าหนัก ทำให้ผู้ประกอบการในกลุ่มนี้มีจำนวนไม่มากเมื่อเปรียบเทียบกับทุกกลุ่ม
สำหรับ ผู้ประกอบการที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้านในปัจจุบัน และผู้ที่สนใจจะเข้ามาร่วมแข่งขันชิงแชร์ส่วนแบ่งตลาดรับสร้างบ้านในอนาคต ก็ควรลองสำรวจตรวจตราตัวเองดูว่าท่านจัดอยู่ในกลุ่มใด หรือสนใจจะเข้ามาแชร์ส่วนแบ่งตลาดกลุ่มไหนเป็นพิเศษ ควรปรับตำแหน่งผลิตภัณฑ์และบริการของตัวเองให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้ สามารถที่จะแข่งขันได้อย่างไม่เสียเปรียบ ในส่วนของผู้บริโภคก็ควรศึกษาและทำความเข้าใจกับความต้องการของตัวเอง รวมถึงศึกษาว่าผู้ประกอบการกลุ่มใดหรือรายใดที่จะตอบโจทย์ตัวเองมากที่สุด ก่อนจะตัดสินใจเลือกจะได้ไม่ผิดหวัง