Wednesday, 17 December 2025 - 2 : 23 am
spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
spot_img

Splendor-Biz

สื่อเศรษฐกิจสร้างสรรค์

ครบครันบนโลกออนไลน์

spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
Wednesday, 17 December 2025 - 2 : 23 am

ทายาทธุรกิจ “ยูนิเฟิร์ม” ส่งมอบคุณภาพสร้างชื่อขนมแห่งความสุข SME D Bank กองหนุนเปิดประตูสร้างโอกาสขยายตลาดอินเตอร์  

เสียงเครื่องจักรทำงาน คลอเคล้ากับเสียงหัวเราะของพนักงาน ทุกคนเสมือนสมาชิกในครอบครัว มาพร้อมกลิ่นแป้งอบเนย น้ำตาล และช็อกโกแลต หอมฟุ้งอบอวลทั่วโรงงาน คือ ความทรงจำอันคุ้นเคยตั้งแต่วัยเยาว์ของ “ธีรพิชญ์ จึงเลิศไพศาล” หรือ “กอล์ฟ”  ทายาทธุรกิจ ของ บริษัท ยูนิเฟิร์ม จำกัด

จนเมื่อเติบโต เขาได้สานต่อกิจการที่พ่อและแม่ก่อร่างสร้างไว้ด้วยความรักและความเพียร โดยมีเป้าหมายขยายธุรกิจให้เติบโตกว่าเดิมสู่ระดับอินเตอร์แบรนด์ ด้วยการส่งมอบ “ขนมที่อร่อยและมีคุณภาพ” ให้ผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยได้ลิ้มรสขนมแห่งความสุขในทุกคำ โดยมี SME D Bank ธนาคารเพื่อเอสเอ็มอีไทย สนับสนุนเติมทุนและช่วยขยายตลาด ส่งเสริมให้ธุรกิจไปถึงเป้าหมายที่มุ่งหวังไว้

คุณกอล์ฟ รองประธานกรรมการ บริษัท ยูนิเฟิร์ม จำกัด ธุรกิจผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวหลากหลายชนิดเล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นธุรกิจ ว่า ยูนิเฟิร์ม บุกเบิกโดยคุณพ่อ ที่ทำโรงงานร่วมกับญาติที่ผลิตสินค้าประเภทลูกอมและหมากฝรั่ง ก่อนจะตัดสินใจแยกมาสร้างธุรกิจของตนเอง เปิดโรงงานใหม่ผลิต “บิสกิตและคุกกี้” เพื่อสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวในตลาดขนมประเทศไทย ซึ่งในยุคนั้น ตลาดเปิดกว้างสำหรับผู้ผลิตรายใหม่ที่มีคุณภาพ

“สถานที่นี้คือบ้านของเรา” คุณกอล์ฟ เล่าด้วยรอยยิ้มและแววตาเป็นประกาย บ่งบอกถึงความผูกพันลึกซึ้ง เขาเล่าว่า ตั้งแต่เด็ก โรงงานอยู่ชั้นล่าง ในขณะที่เขานอนอยู่บนชั้นสองของโรงงานและได้ยินเสียงเครื่องจักรผลิตขนมปัง ตั้งแต่จำความได้ การได้เห็นพ่อแม่ทำงานอย่างตั้งใจ ทั้งในส่วนของการผลิตที่คุณพ่อเชี่ยวชาญ กับการควบคุมคุณภาพและการบรรจุหีบห่อที่เก่งกาจของคุณแม่ ทำให้ส่วนตัวแล้ว เขาไม่เคยมีความคิดที่จะไปทำอย่างอื่นเลย นอกจากต้องการจะสานต่อธุรกิจครอบครัวหลังเรียนจบ

“ผมไม่เคยลังเลที่จะกลับมาทำงานในโรงงานแห่งนี้ เพราะที่นี่ คือ บ้านที่ผมเติบโตมา เห็นพ่อแม่ลงแรงสร้างทุกอย่างด้วยสองมือ เลยไม่เคยคิดจะไปทำงานอย่างอื่นเลย นอกจากต้องการสานต่อกิจการและตั้งใจพัฒนาโรงงานให้ดีขึ้น และเติบโตขึ้น”  คุณกอล์ฟ เล่าพร้อมรอยยิ้ม

จุดเด่นของสินค้า “ยูนิเฟิร์ม” คือ การผลิตที่ใส่ใจในทุกขั้นตอน โดยมี “คุณภาพ” เป็นหัวใจสำคัญที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่วัยเด็ก  พิถีพิถันให้สินค้าทุกชิ้นคงมาตรฐานตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ พร้อมใส่ใจการบริหารจัดการต้นทุนอย่างเข้มงวด “ของเสียไม่ได้ เพราะหากเกิดเสียเพียงนิดเดียว ก็เท่ากับเสียทั้งเวลาและเงินของทั้งโรงงาน” หลักคิดนี้เป็นบทเรียนสำคัญที่คุณกอล์ฟได้รับจากคุณพ่อคุณแม่ นำมาสานต่อเป็นแนวทางในการบริหารธุรกิจ “ยูนิเฟิร์ม”  

ขณะเดียวกัน ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกชนิด ตั้งแต่คิดสูตร ทดลองผลิต จนถึงการบรรจุ ส่งสินค้า ควบคุมคุณภาพอย่างละเอียด ทำให้โรงงานผ่านรับรอง  Full Safety มาตรฐาน FSSC 22000 (Food Safety System Certification)  ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรฐานความปลอดภัยอาหารระดับสูงของโลก และผ่านการตรวจสอบจากลูกค้าญี่ปุ่น  ทำให้เชื่อมั่นว่า สินค้าสามารถขายได้ทั่วโลก   

ความท้าทายในช่วงแรกของการตั้งโรงงานใหม่ คือ สินค้ายังไม่เป็นที่รู้จัก ทำให้ประสบปัญหาการเข้าวางขายในร้านค้าต่าง ๆ และลูกค้ายังไม่รู้จักผลิตภัณฑ์  

อีกทั้ง โลกของธุรกิจไม่เหมือนเดิม จากเดิมในยุคคุณพ่อคุณแม่ การขายสินค้าขนมอาศัยคุณภาพและความไว้ใจจากร้านค้า ก็สามารถนำสินค้าเข้าวางขายได้ แต่ปัจจุบัน ธุรกิจต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะสินค้าขนมจากจีน เวียดนาม และมาเลเซีย ที่หลั่งไหลเข้ามาชิงตลาดไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมราคาที่ถูกกว่า รวมถึง พบว่าตลาดในประเทศ เริ่มอิ่มตัว  จึงเป็นเรื่องยากสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่รายเล็กๆ ที่จะแทรกตัวแจ้งเกิดได้ 

อย่างไรก็ตาม คุณกอล์ฟเปลี่ยน “อุปสรรค” ให้เป็น “โอกาส”  มุ่งมองหาโอกาสขยายตลาด  ด้วยการไปสินค้าขยายสู่ตลาดประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม โดยเริ่มต้นจากตลาดเวียดนามเป็นแห่งแรก ซึ่งการก้าวเข้าสู่ตลาดต่างประเทศไม่ได้เกิดจากความบังเอิญ แต่เป็นผลของการวิเคราะห์เชิงลึกถึงพฤติกรรมผู้บริโภค และความเข้าใจในจุดแข็งของแบรนด์ไทย ที่มีเอกลักษณ์ด้าน “คุณภาพ” และ “รสชาติ” ที่ประเทศอื่นลอกเลียนแบบได้ยาก

นอกจากนี้ ยูนิเฟิร์ม มุ่งพัฒนา “ขนมที่แตกต่าง” ด้วยการผสานความสนุกและความคิดสร้างสรรค์เข้าไปในผลิตภัณฑ์ เช่น “คุกกี้จิ้มช็อกโกแลต” ที่ให้ผู้บริโภคได้ “เล่นกับอาหาร” สร้างประสบการณ์ใหม่ที่มากกว่าแค่การกิน แต่ให้ความเพลิดเพลินไปกับรสชาติและความสุขในทุกคำ โดยปัจจุบัน  ภายใต้ร่มของยูนิเฟิร์ม มีสินค้ามากกว่า 20 รายการ  เช่น คุ๊กกี๊ , แครกเกอร์ และข้าวโพดอบกรอบ เป็นต้น ในแบรนด์ต่างๆ  เช่น ทิคกี้ , Yo FRIEND , ฟรี-โอ และ DAKO Stick เป็นต้น

ตลอดเส้นทางการเติบโตของยูนิเฟิร์ม  มี ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เป็นพันธมิตรที่สำคัญ นอกจากช่วยด้านเงินทุนแล้ว ยังทำหน้าที่เป็น “เพื่อนคู่คิด”  ช่วยเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ เช่น พาไปออกงานแสดงสินค้าต่างประเทศ  ทำให้ได้โอกาสเจอลูกค้าตัวจริง ทำให้ได้รับเสนอแนะ เพื่อกลับมาปรับปรุงสินค้าให้เหมาะกับตลาดแต่ละประเทศมากขึ้น

นอกจากนั้น SME D Bank ยังสนับสนุนนำผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ แนะนำการสร้างแบรนด์ อีกทั้ง พาอินฟลูเอนเซอร์มาไลฟ์ขายสินค้า  ในโครงการ “อินฟูลฯ ไลฟ์ เอสเอ็มอี รวย” ทำให้แบรนด์ของยูนิเฟิร์มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และขยายตลาด จากรูปแบบ B2B ไปสู่ B2C ได้มากยิ่งขึ้น

“SME D Bank ไม่ได้แค่ให้เงิน แต่สนับสนุนด้านการพัฒนา ต่อยอดธุรกิจเราให้ไปถึงจุดที่คิดไม่ถึง กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจครอบครัวของเรา สามารถไปยืนในตลาดระดับโลกได้” คุณกอล์ฟ ระบุ

ส่วนแผนธุรกิจในอนาคต คุณกอล์ฟ แจงว่า เนื่องจากประเทศไทย จำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้กำลังศึกษาและพัฒนาขนมสุขภาพ เช่น คุกกี้ที่ไม่ใช้แป้งสาลี ใช้ไขมันดี ผสมผลไม้จริง เพื่อให้คนสูงอายุหรือคนรักสุขภาพกินได้อย่างสบายใจ

แผนการปรับตัวดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวที่เข้าใจเทรนด์ตลาด และพร้อมจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้เสมอ ทำให้สินค้าของยูนิเฟิร์ม  ไม่ได้จำกัดแค่สำหรับเด็กเท่านั้น แต่เป็นขนมของทุกคนที่กินอร่อยและดีต่อสุขภาพ

แม้เส้นทางธุรกิจที่ผ่านมา จะเต็มไปด้วยการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยจุดยืนที่ยึดมั่นตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ คือ “คุณภาพ ความจริงใจ และการไม่หยุดพัฒนา”  ยูนิเฟิร์มพร้อมจะก้าวต่อไป ให้ไกลกว่าเดิม สู่แบรนด์ระดับภูมิภาค สร้างการเติบโตที่มั่นคง และยั่งยืน   

ข่าวล่าสุด