Monday, 17 November 2025 - 10 : 50 pm
spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
spot_img

Splendor-Biz

สื่อเศรษฐกิจสร้างสรรค์

ครบครันบนโลกออนไลน์

spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
Monday, 17 November 2025 - 10 : 50 pm

‘ไชยชนก’ นำทัพ ‘ดีอี’ ปลดล็อก รย.17–18 อัดเงินช่วยสูงสุด 2 หมื่น/คนดันไรเดอร์กว่า 2 แสนรายเข้าสู่ระบบ ถูกต้อง เป็นธรรม

17 พฤศจิกายน 2568 – กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) แถลงความคืบหน้ามาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบให้แก่กลุ่มผู้ขับขี่รถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน ภายหลังได้รับหนังสือร้องเรียนเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วยนางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เร่งประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปลดล็อกข้อจำกัดทางกฎหมายและลดภาระค่าใช้จ่าย ภายใต้นโยบาย Quick Big Win ของนายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี ซึ่งใช้เวลาเพียง 7 วัน ในการหาข้อยุติและออกเป็น 5 มาตรการสำคัญในการช่วยเหลือไรเดอร์และไดรเวอร์ทั่วประเทศ โดยกำหนดกรอบระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย. 2568-28 ก.พ. 2569

นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) กล่าวว่า “ประกาศเรื่องรถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (รย.17 และ รย.18) ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ขับขี่กว่า 200,000 รายที่เป็นฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงฯ รับทราบถึงข้อกังวลและอุปสรรคหน้างาน ทั้งเรื่องเอกสารสิทธิ์ รถติดไฟแนนซ์ ค่าใช้จ่ายประกันภัยที่สูงขึ้น รวมถึงข้อจำกัดทางเทคนิคต่างๆ หลังจากรับข้อร้องเรียนมาแล้ว กระทรวงดีอีจึงไม่ได้นิ่งนอนใจและได้เร่งหารือกับกรมการขนส่งทางบก, ETDA สถาบันการเงิน และภาคเอกชน จนได้แนวทางแก้ไขปัญหาเร่งด่วน 5 มาตรการ เพื่อช่วยปลดล็อกผู้ประกอบอาชีพขับรถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชันให้สามารถเข้าสู่ระบบได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรม”
สำหรับ 5 มาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนเพื่อลดภาระและอำนวยความสะดวกให้แก่ไรเดอร์และไดรเวอร์ทั่วประเทศ มีรายละเอียดดังนี้

  1. ลงทะเบียนสำหรับรถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชันผ่านช่องทางออนไลน์ ETDA
    • เปิดให้ลงทะเบียนแสดงเจตจำนงผ่านเว็บไซต์ https://driververify.mdes.go.th (ล็อกอินผ่าน Thai ID) ไปจนถึงวันที่ 28 ก.พ. 2569
    • เมื่อข้อมูลได้รับการยืนยันจากแพลตฟอร์ม ระบบจะออก “ใบรับแจ้งลงทะเบียน” (QR Code) เพื่อใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อยืนยันว่าอยู่ในระหว่างดำเนินการจดทะเบียนเป็นรถสาธารณะ
    • ผู้ขับขี่จะต้องดำเนินการจดทะเบียนเป็นรถสาธารณะและทำใบขับขี่สาธารณะกับกรมการขนส่งทางบกให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 28 ก.พ. 2569
  2. แก้ปัญหาไฟแนนซ์-ลีซซิ่ง-ประกันภัย
    • รถที่ติดไฟแนนซ์สามารถใช้สำเนาใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ยื่นจดทะเบียนแทนเล่มจริงตามระเบียบของกรมการขนส่งทางบกไปจนวันที่ 28 ก.พ. 2569

• เจรจาลดค่าธรรมเนียมกรณีเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อกับบริษัทลีซซิ่งทุกราย โดยขณะนี้ได้รับความร่วมมือจาก ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เป็นรายแรก เหลือ 0.25% ต่อปี จากเดิม 1% ของยอดเงินคงเหลือตลอดสัญญา
• สามารถใช้ประกันภัยเชิงพาณิชย์ชั้น 3 ได้ไม่จำเป็นต้องทำประกันชั้น 1 เพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยได้ขอความร่วมมือกับบริษัทลีซซิ่งทุกราย ซึ่งทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) ให้การตอบรับเป็นรายแรก

  1. กระทรวงดีอีเจรจากับกระทรวงคมนาคม แก้ปัญหาล่าช้า ปลดล็อกเงื่อนไขเอกสาร–เครื่องยนต์ ลดภาระการ
    หาผู้รับรอง
    • แก้ปัญหาภูมิลำเนาของผู้ขับขี่ที่ต้องให้คณะกรรมการประจำจังหวัดเป็นผู้รับรอง โดยกรมการขนส่งทางบกจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการ ภายใต้กรมการขนส่งทางบกประจำจังหวัดสำหรับพิจารณารถที่ต้องการจดทะเบียนเป็นรถสาธารณะทุกสัปดาห์จากเดิมประชุมเดือนละครั้ง
    • ขยายซีซีรถจักรยานยนต์ โดยให้นโยบายพิจารณาศึกษาเพื่อแก้กฎหมายเพิ่มขนาดเครื่องยนต์รถจักรยานยนต์สาธารณะจากเดิมกำหนดไว้ไม่เกิน 125 ซีซี ให้สอดคล้องและเหมาะสมกับขนาดเครื่องยนต์ในปัจจุบัน คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 1 เดือน
  2. พิจารณาแก้กฎหมายให้นำรถเช่ามาให้บริการสาธารณะผ่านแอปพลิเคชันได้
    • กระทรวงดีอีได้หารือกับกระทรวงคมนาคมแล้ว โดยกระทรวงคมนาคมเห็นชอบในหลักการแก้ไขกฎกระทรวง และอยู่ระหว่างการดำเนินการของกรมการขนส่งทางบก
  3. มาตรการมอบเงินสนับสนุนพิเศษ
    • กระทรวงดีอีประสานแพลตฟอร์มผู้ให้บริการมอบเงินสนับสนุนพิเศษเพื่อเป็นกำลังใจในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยมี Grab และ LINE MAN ให้การตอบรับและพร้อมสนับสนุนเงินพิเศษ ซึ่งผู้ขับขี่จะได้รับเงินสนับสนุนตั้งแต่ 5,000 – 20,000 บาทต่อคน

นอกจากนี้ยังมีแนวทางในการเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลแพลตฟอร์มผู้ให้บริการ หากพบผู้ให้บริการรายใดไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือปล่อยปละละเลยให้รถที่ผิดกฎหมายและไม่ได้จดทะเบียนเป็นรถสาธารณะมาวิ่งให้บริการ กระทรวงดีอีพร้อมดำเนินการทันที

นายไชยชนก กล่าวทิ้งท้ายว่า “กระทรวงดีอีขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการช่วยกันหาทางออก จนได้ข้อสรุปที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมในระยะเวลาอันสั้น เป้าหมายของเราชัดเจนคือการคุ้มครองแรงงานดิจิทัลให้มั่นคง ควบคุมแพลตฟอร์มให้โปร่งใส และดูแลผู้ใช้บริการให้ได้รับความเป็นธรรม โดยกระทรวงดีอีจะเร่งเครื่องติดตามความคืบหน้าและขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป”

ข่าวล่าสุด