
เอ็กโคแล็บ (Ecolab) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันและบริการเกี่ยวกับน้ำ สุขอนามัย และการป้องกันการติดเชื้อ และเอสซีจี (SCG) กลุ่มธุรกิจชั้นนำในอาเซียน ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่มิถุนายน 2568 ถึงพฤษภาคม 2573 เพื่อเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของเอสซีจี ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนบริหารจัดการกระบวนการผลิต ควบคู่การขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้าน ESG เพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero คาดช่วยให้เอสซีจีเพิ่มสัดส่วนการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่จาก 13.10% ในปี 2567 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการสานต่อความร่วมมือกว่า 30 ปี ที่มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านความยั่งยืน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างเอ็กโคแล็บและเอสซีจีนี้ มุ่งสร้างผลลัพธ์ที่ช่วยเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันให้เอสซีจี ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ไปจนถึงการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์อย่างมีนัยสำคัญภายใน 5 ปีข้างหน้า ควบคู่กับการปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน โดยเอ็กโคแล็บจะร่วมมือกับเอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) และเอสซีจี เคมิคอลส์ (SCGC) ในการแสวงหาแนวทางใหม่ ๆ เพื่อยกระดับกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น ผ่านการส่งมอบโซลูชันนวัตกรรมและการปรับปรุงกระบวนการผลิต โดยความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงช่วยประหยัดการใช้น้ำลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และปรับปรุงคุณภาพน้ำ แต่ยังช่วยลดการใช้พลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน และสนับสนุนการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ ซึ่งจะนำไปสู่การเสริมสร้างความยั่งยืนและความแข็งแกร่งทางธุรกิจในระยะยาว

นายคริสตอฟ เบ็ค ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอ็กโคแล็บ (Ecolab) กล่าวว่า “กว่า 30 ปีที่ผ่านมา เอ็กโคแล็บภูมิใจที่ได้เคียงข้างเอสซีจีบนเส้นทางสู่ความยั่งยืน ความร่วมมืออันยาวนานนี้ตั้งอยู่บนความเชื่อร่วมกันว่า การดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบไม่เพียงช่วยปกป้องโลกของเรา แต่ยังสร้างคุณค่าในระยะยาวให้กับทั้งองค์กรและชุมชนอีกด้วย
ด้วยโซลูชันด้านการจัดการน้ำและความเชี่ยวชาญในกระบวนการผลิต เอ็กโคแล็บได้เป็นพันธมิตรที่เอสซีจีไว้วางใจในการช่วยสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม และเมื่อมองไปข้างหน้า เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมืออย่างต่อเนื่องที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและการเติบโตอย่างยั่งยืน จะช่วยเร่งการบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของเอสซีจี พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้กับความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมโดยรวม และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมสร้างความสำเร็จไปกับเอสซีจีต่อไป”
นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี (SCG) กล่าวว่า “เอสซีจี เชื่อมั่นว่าความสามารถในการแข่งขันและความยั่งยืนต้องดำเนินควบคู่กันไป ความร่วมมือกับเอ็กโคแล็บครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยลดต้นทุน ยกระดับประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และเสริมสร้างขีดความสามารถขององค์กร โดยตั้งเป้าเพิ่มอัตราการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ให้สูงกว่า 13.10% จากปี 2567 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ดีขึ้น ความร่วมมือครั้งนี้ยังสอดคล้องกับการขับเคลื่อนเป้าหมายด้าน ESG ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญสู่การบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593 อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นพลังของความร่วมมือที่สามารถสร้างคุณค่าร่วมกันได้ ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และนวัตกรรมในระดับสากลอย่างแท้จริง โดยในระยะแรก ความร่วมมือดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับ SCGP และ SCGC พร้อมโอกาสขยายสู่ธุรกิจอื่น ๆ ในอนาคต”
นายดนัยเดช เกตุสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ SCGP ในการส่งมอบโซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน ด้วยการผสานหลักการออกแบบเพื่อความยั่งยืน (Circular Design) และการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพของ SCGP เข้ากับความเชี่ยวชาญของเอ็กโคแล็บ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งสร้างคุณค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้าและชุมชนได้ดียิ่งขึ้น”
ดร.สุรชา อุดมศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ และนวัตกรรม เอสซีจี เคมิคอลส์ (SCGC) กล่าวว่า “สำหรับ SCGC ความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการยกระดับประสิทธิภาพการใช้น้ำและพลังงานในทุกมิติของการดำเนินงาน ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจด้านความยั่งยืนของ SCGC ภายใต้แนวทาง Low Waste, Low Carbon พร้อมทั้งเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กรให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระยะเวลา 5 ปีดังกล่าว ตอกย้ำพลังของความร่วมมือระหว่างผู้นำในอุตสาหกรรมทั้งเอ็กโคแล็บและเอสซีจี ที่สามารถเปลี่ยนพันธกิจด้านความยั่งยืนให้เป็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ เพื่อเร่งขับเคลื่อนธุรกิจสู่เป้าหมาย Net Zero ควบคู่กับการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันในทุกอุตสาหกรรม