
หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) จัดกิจกรรมเปิดตัวโครงการ “Morlum: Esarn Soft Power to Global” อย่างเป็นทางการ ภายในบูธนิทรรศการของ บพข. ในงาน อว.แฟร์ 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีผู้บริหารจากภาครัฐและภาควิชาการเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ท่ามกลางบรรยากาศคึกคักจากประชาชนทั่วไปที่ให้ความสนใจตลอดช่วงกิจกรรม
ผู้บริหาร บพข. กล่าวว่า “หมอลำไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงพื้นบ้าน แต่คือขุมทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่เปี่ยมด้วยศักยภาพ และพร้อมที่จะก้าวสู่เวทีระดับโลก โครงการนี้จึงเป็นภารกิจสำคัญในการนำงานวิจัยเข้ามาต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับศิลปวัฒนธรรมไทยอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสและตระหนักว่า นวัตกรรมจากวิถีไทยนั้น
มีพลังมหาศาล



โครงการนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่การแสดงศิลปวัฒนธรรม หากแต่เป็นการวางรากฐานเชิงระบบ เพื่อผลักดันหมอลำให้กลายเป็นหนึ่งใน Soft Power ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทย บพข. มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนทุนวิจัยและความร่วมมือทุกภาคส่วน เพื่อให้ทุนทางวัฒนธรรมของเราถูกต่อยอดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างเป็นรูปธรรมและพร้อมจะสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประเทศอย่างยั่งยืน”
พิธีเปิดเริ่มต้นด้วยการแสดงโปงลางบรรเลงบทเพลงเทิดพระเกียรติแม่ของแผ่นดิน ก่อนเข้าสู่ช่วงการเปิดตัวโครงการ “Morlum: Esarn Soft Power to Global” อย่างเป็นทางการ พร้อมฉายวิดีทัศน์แนะนำบทบาทของ บพข. ในการสนับสนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และยกระดับศิลปะหมอลำในฐานะทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของชาติผ่านกระบวนการวิจัยและบ่มเพาะศิลปิน พร้อมการแสดงหมอลำประกอบแสง สี เสียง และยังมีกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ การแสดง Orchestra อีสาน ที่ผสมผสานเครื่องดนตรีพื้นบ้านกับดนตรีสากลอย่างกลมกลืน, เวทีเสวนาในหัวข้อ “หมอลำก้าวสู่ Soft Power ทั้งในระดับประเทศและสากล” โดยตัวแทนจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ภาคเอกชน และนักวิจัย พร้อม VTR สะท้อนมุมมองของชาวต่างชาติที่มีต่อหมอลำ นอกจากนี้ ยังมีการแสดงหมอลำขนานแท้จากคณะเสียงอีสาน และกิจกรรมแจกของที่ระลึกภายใต้แนวคิด “หมอลำรักษ์โลก” ซึ่งผลิตจากขวดพลาสติกรีไซเคิล




ผู้เข้าชมบูธ บพข. สามารถร่วมสัมผัสนวัตกรรมจากวิถีไทยใน 5 โซนสำคัญ สะท้อนแนวคิด “ภูมิปัญญา 5.0” เริ่มตั้งแต่โซน PMUC Space & Information ที่จัดแสดงภารกิจสำคัญขององค์กร, โซนกีฬาไทยและความเชื่อ (Thai Martial Art & Belief ) ที่นำเสนอ “มวยไทยเวิร์ส” และเกม “Mythophobia” ที่ใช้เทคโนโลยี Metaverse, โซนดนตรีและศิลปะไทย (Music & Art Entertainment ) ที่ผสานดนตรีบำบัดกับภูมิปัญญาอีสาน, โซนอาหารและสมุนไพรไทย (Meta Super Market ) ที่รวบรวมผลิตภัณฑ์นวัตกรรม เช่น โปรตีนจิ้งหรีด, สุราพื้นบ้าน ไปจนถึงปากกาทดสอบกลิ่น และปิดท้ายด้วยโซนคมนาคมไทย (City Transportation ) ที่จำลองตู้โดยสารรถไฟเพื่อแสดงนวัตกรรมยานยนต์ไทยทำแห่งอนาคต
นอกจากนี้ บพข.ยังได้มีการจัดงาน “IDE Day 2025: Innovation Exchange” เพื่อแสดงพลังความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน นักวิจัย และผู้ประกอบการ ในการเปลี่ยน “ทุนวิจัย” ให้เป็น “กลไกระดับประเทศ” ที่สร้างความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน โดยมี ผศ.ดร.พูลศักดิ์ โกษียาภรณ์ รองผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวย้ำถึงความสำคัญของการสร้าง “กลไกเชื่อมโยง” ระหว่างทุน กลไก และตลาด เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างมียุทธศาสตร์ และตอบโจทย์เศรษฐกิจและสังคมได้จริง

บพข. ในฐานะผู้ขับเคลื่อนแผนงาน Innovation Driven Enterprises (IDEs) ใช้บทบาท Sandbox ระดับประเทศในการทดลองกลไกเชิงระบบเพื่อช่วยให้บริษัทไทยปรับโครงสร้างองค์กร สร้างขีดความสามารถใหม่ และต่อยอดสู่การแข่งขันระดับสากล โดยในช่วง 2 ปีแรก แผนงาน IDEs ได้สร้างเครือข่ายความร่วมมือ 3 ฝ่าย คือ บริษัท ME/LE หน่วยงานตัวกลาง (IM) และที่ปรึกษาเชิงลึก (IBDS) ส่งผลให้มีบริษัท 230 แห่งเริ่มเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจฐานนวัตกรรม, 5 บริษัทก้าวสู่รายได้พันล้านบาท, 37 หน่วยงานตัวกลางทั่วประเทศนำกลยุทธ์นวัตกรรมขับเคลื่อนธุรกิจ และมีทีมที่ปรึกษา IBDS กว่า 100 ทีมลงพื้นที่ช่วยเหลือเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ภายในงาน อว.แฟร์ ยังมีการจัดกิจกรรมจาก บพข. อีกมากมาย อาทิ ภูมิปัญญาผสานเทคโนโลยี สู่วิถีสุขภาวะแห่งอนาคต กิจกรรม Revitalize & Resonate: The Tech & Tradition of Future Wellness การผสานวิทยาศาสตร์กับภูมิปัญญาท้องถิ่น ระหว่างดนตรีอีสานกับศาสตร์ ด้านดนตรีบำบัดสมุนไพรอายุรเวท และประสาทวิทยา ไม่เพียงยกระดับสุขภาพแบบองค์รวม แต่ยังสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ในวันที่ 16 สิงหาคม 2568 เพื่อสื่อสารแนวคิดสุขภาพแบบองค์รวมจากสมุนไพรไทย
บพข. ขอเรียนเชิญผู้ที่สนใจทุกท่านมาร่วมเปิดประสบการณ์และค้นพบพลังแห่งงานวิจัยที่พร้อมจะเปลี่ยนอนาคตของประเทศไทยได้ที่บูธ บพข. ในงาน “อว.แฟร์ 2568” ระหว่างวันนี้ – 17 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์