
ในโลกธุรกิจที่หมุนเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ความสามารถในการปรับตัวและมองเห็นโอกาสท่ามกลางวิกฤต คือ สิ่งที่ทำให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตได้ เช่นเดียวกับเรื่องราวของ บริษัท โรสเจริญ เลเซอร์ จำกัด หรือ Rose Charoen Laser : RCL ธุรกิจด้านงานตัดเลเซอร์ (Laser Cutting) ครบวงจร ที่ยืนหยัดอยู่ในวงการมากว่า 30 ปี
กว่าจะถึงวันนี้ได้ ต้องผ่านบททดสอบสำคัญ ในการปรับเปลี่ยนจากธุรกิจเดิมที่กำลังอยู่ในช่วงขาลง ไปสู่ธุรกิจใหม่ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร ช่วยให้กิจการยังสามารถเดินหน้าและไปต่อได้
ตลอดเส้นทางธุรกิจที่ผ่านมา SME D Bank ธนาคารเพื่อเอสเอ็มอีไทย คอยเป็นแรงหนุน อยู่เบื้องหลัง เติมทุนเสริมแกร่งด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ช่วยให้สามารถบริหารจัดการต้นทุนธุรกิจได้เหมาะสม สามารถเปลี่ยนผ่าน และเดินหน้าตามแผนธุรกิจที่วางไว้ได้

คุณปรีชา คงแป้น และคุณกุหลาบ คงแป้น บุกเบิกธุรกิจ RCL ตั้งแต่ประมาณปี 2535 จากเคยทำงานประจำอยู่ในโรงงานผลิตรองเท้า หนึ่งในกระบวนการผลิตรองเท้า คือ ทำ “แม่พิมพ์” จากเหล็ก สำหรับใช้เป็นแม่พิมพ์ในการตัดชิ้นส่วนวัสดุผ้าหรือหนัง เพื่อนำไปเย็บประกอบกันเป็นรองเท้า
คุณปรีชา เล่าว่า เมื่อประมาณ 30 กว่าปีที่แล้ว อุตสาหกรรมผลิตรองเท้าในประเทศไทย เติบโตมาก แบรนด์ต่างประเทศใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรองเท้าส่งออกไปทั่วโลก ยิ่งรองเท้า ออกรุ่นใหม่มากและถี่เท่าไร ความต้องการใช้แม่พิมพ์ ก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย

จากโอกาสที่เห็น ประกอบกับมีความชำนาญสายผลิตแม่พิมพ์รองเท้า คุณปรีชา ตัดสินใจเปิดโรงงานของตัวเอง รับจ้างผลิตแม่พิมพ์ให้แก่กลุ่มโรงงานรองเท้าต่างๆ ในนาม ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรสเจริญ เลเซอร์ อยู่ที่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งธุรกิจเติบโตด้วยดีเสมอมา
กระทั่ง เมื่อถึงยุคเปลี่ยนผ่าน ลูกค้าแบรนด์รองเท้าต่างประเทศ เริ่มหันไปใช้บริการประเทศเพื่อนบ้านเป็นฐานการผลิตทดแทน เพื่อลดต้นทุนค่าจ้างแรงงาน ทำให้ออเดอร์การสั่งผลิตแม่พิมพ์ ลดลงตามไปด้วย
แรงผลักจากความจำเป็น นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ด้วยการปรับธุรกิจจากเน้นงานผลิตแม่พิมพ์ มาสู่เน้นงานตัดเลเซอร์ (Laser Cutting) วัสดุต่าง ๆ เช่น เหล็ก, สแตนเลส, อะลูมิเนียม, ทองเหลือง, ทองแดง, อะคริลิก และพลาสติก เป็นต้น ดำเนินธุรกิจในนาม บริษัท โรสเจริญ เลเซอร์ จำกัด หรือ RCL เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว

คุณปรีชา ขยายความให้ฟังว่า ก่อนหน้านั้น เคยใช้วิธีการจ้างโรงงานภายนอกตัดเลเซอร์ให้ แต่ประสบปัญหาเรื่องความไม่แน่นอนด้านคุณภาพและระยะเวลาในการส่งมอบงาน บางครั้งส่งงานไม่ทัน ซึ่งไม่อาจปล่อยให้สถานการณ์นี้เกิดขึ้นซ้ำอีกได้ เขาจึงตัดสินใจว่าต้องลงทุนซื้อเครื่องเลเซอร์เอง เพื่อควบคุมกระบวนการผลิตทั้งหมดได้ด้วยตนเอง
ทั้งนี้ งานตัดเลเซอร์ เป็นหนึ่งในกระบวนการผลิตแม่พิมพ์รองเท้าอยู่แล้ว แต่การยกระดับมารับงานตัดเลเซอร์เป็นหลัก จำเป็นต้องลงทุนในเครื่องจักรเลเซอร์คุณภาพสูง ซึ่งต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก การเข้าถึงสินเชื่อที่มีต้นทุนทางการเงินเหมาะสมเพื่อซื้อเครื่องจักร นับเป็นปัจจัยชี้ขาดความสำเร็จหรือล้มเหลวเลยทีเดียว ซึ่งเวลานั้น พบอุปสรรคเข้าไม่ถึงแหล่งทุน จนกระทั่งได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ผ่านธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เพื่อซื้อเครื่องจักรตัดเลเซอร์ มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ทำให้สามารถเปลี่ยนผ่าน และเดินหน้าธุรกิจมาได้ต่อเนื่องเรื่อยมา โดยปัจจุบัน สัดส่วนรายได้จากงานเลเซอร์ คิดเป็นกว่า 80% ส่วนงานแม่พิมพ์ ประมาณ 20%
กล่าวได้ว่า การตัดสินใจลงทุนครั้งใหญ่เพื่อเปลี่ยนผ่านธุรกิจในเวลานั้น จึงเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องอย่างยิ่ง

การส่งไม้ต่อจากพ่อสู่ลูก เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม ลูกชายของคุณปรีชา คือ “คุณจิรศักดิ์ คงแป้น” ได้เข้าสานต่อธุรกิจ ในช่วงเวลาที่บริษัทเริ่มเปลี่ยนผ่านจากโรงงานขนาดเล็กสู่ธุรกิจอุตสาหกรรมที่ทันสมัยมากขึ้น โดยทายาทธุรกิจได้นำจุดเด่นตั้งแต่รุ่นคุณพ่อคุณแม่ ในการยึดคุณภาพ มาต่อยอดด้วยการเพิ่มไลน์การผลิต เพื่อขยายฐานหาลูกค้าใหม่
คุณจิรศักดิ์ ขยายความให้ฟังว่า ในช่วงแรก โรงงานจะรับงานได้เฉพาะการตัดเลเซอร์ตามรูปแบบที่ลูกค้าสั่งมา แต่ปัจจุบัน RCL สามารถให้บริการ One Stop Service ที่ครอบคลุมทั้งงานตัด พับ ม้วน เชื่อม ประกอบ และยังรับออกแบบ CAD/CAM สำหรับงานโลหะทุกรูปแบบ ทำให้ลูกค้าวางใจและใช้บริการซ้ำต่อเนื่อง นอกจากนั้น ยังลงทุนสต็อกสินค้า โดยเฉพาะ “เหล็กแผ่น” เพื่อจะมีวัตถุดิบพร้อมจะผลิตงานส่งให้ลูกค้าอย่างรวดเร็ว
“จุดเด่นของ RCL คือ สามารถทำงานครบวงจร ตั้งแต่ตัด ม้วน พับ และเชื่อมประกอบ อีกทั้ง การมีวัสดุเหล็กที่สต็อกเตรียมพร้อมไว้แล้ว ช่วยให้เราสามารถทำงานให้ลูกค้าได้เร็วกว่าผู้ผลิตรายอื่นๆ” ทายาทธุรกิจ ระบุ

การจะทำให้ระบบหลังบ้านมีความพร้อม ทั้งเรื่องเครื่องจักร เทคโนโลยี ซอฟต์แวร์ และการซื้อวัสดุดิบมาสำรองไว้ เบื้องหลังจำเป็นต้องอาศัยการลงทุน ดังนั้น มอบความไว้วางใจให้ SME D Bank โดยสาขาพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมเส้นทางธุรกิจกันมายาวนาน เข้ามาช่วยสนับสนุนเงินทุนอีกครั้ง ผ่านโครงการสินเชื่อ “Beyond ติดปีก SME” ที่มีอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3%ต่อปี แถมยังคงที่ตลอด 3 ปีแรก และผ่อนชำระนานสูงสุดถึง 10 ปี ทำให้มั่นใจที่จะลงทุน เพื่อยกระดับธุรกิจ
“การลงทุนเครื่องจักรใหม่ ช่วยให้ธุรกิจมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น เช่น เพิ่มความแม่นยำในการผลิต ช่วยลดต้นทุนพลังงาน ทั้งเรื่องค่าไฟฟ้า และลดกำลังคน ที่สำคัญ ทำให้เราสามารถรับงานที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งผมวางแผนที่จะขยายหาฐานลูกค้ารายใหม่ และหาตลาดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้าง ตกแต่งภายใน เฟอร์นิเจอร์ การแปรรูปโลหะต่างๆ ฯลฯ เหล่านี้ ล้วนมีจุดตั้งต้นจากการทำงานด้วยเครื่องตัดเลเซอร์” คุณจิรศักดิ์ ฉายภาพของธุรกิจ RCL ในยุคใหม่ที่กำลังเดินไป

ความสำเร็จที่เกิดจากหัวใจและโอกาส เรื่องราวของ RCL เป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนว่า ความกล้าในการเปลี่ยนแปลง การมองเห็นโอกาสในช่วงวิกฤต และการได้รับแรงหนุนจากแหล่งทุนที่เข้าใจผู้ประกอบการ คือสิ่งที่ช่วยพลิกชีวิตของธุรกิจได้อย่างแท้จริง