orbix INVEST ผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Fund Manager) ประกอบธุรกิจรับจัดการเงินลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล ในเครือยูนิต้า แคปิทัล ซึ่งเป็นบริษัทลูกในกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทย ประกาศเปิดตัว 2 กลยุทธ์การลงทุนใหม่ Tailor-Made Strategy และ orbix BE Smart Capture ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนทุกกลุ่ม โดยมุ่งเน้นการสร้างโอกาสการลงทุนที่ยั่งยืนและตอบโจทย์ในทุกสถานการณ์ตลาด
ดร.ธนภูมิ ดำรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออร์บิกซ์ อินเวสท์ จำกัด เปิดเผยว่า ออร์บิกซ์ อินเวสท์ (orbix INVEST) ผู้ให้บริการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านกลยุทธ์จัดการเงินทุน เปิดตัว 2 กลยุทธ์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของนักลงทุนยุคใหม่ โดยเน้นทั้งการจัดพอร์ตแบบเฉพาะบุคคลที่สอดรับกับเป้าหมายทางการเงิน และความยืดหยุ่นในการปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ได้แก่
1.กลยุทธ์ Tailor-Made Strategy บริการระดับพรีเมียมที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การลงทุนที่เหนือกว่า สามารถจัดการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลได้แบบส่วนตัว เน้นการบริหารพอร์ตที่ตอบสนองความต้องการของนักลงทุนในทุกมิติ โดยมีจุดเด่น 3 เรื่อง คือ
- ออกแบบพอร์ตการลงทุนเฉพาะบุคคล ทีมผู้เชี่ยวชาญจะช่วยกำหนดแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงินของคุณ
- ลดความผันผวนด้วยกลยุทธ์ยืดหยุ่น รองรับความไม่แน่นอนของตลาดด้วยกลยุทธ์กระจายความเสี่ยง
- ดูแลพอร์ตอย่างใกล้ชิด ทีมบริหารการลงทุนมืออาชีพจะช่วยติดตามและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตสูงสุด
สำหรับกลยุทธ์ Tailor-Made Strategy ถือเป็นนิยามใหม่ของการลงทุนที่มุ่งตอบโจทย์ในทุกมิติ เพราะการลงทุนไม่ได้มีเป้าหมายเพียงแค่ผลกำไร แต่ยังต้องมอบความสบายใจและความมั่นใจในทุกการตัดสินใจลงทุน ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 10 ล้านบาท
2.กลยุทธ์ orbix BE Smart Capture ถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนที่ต้องการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล และเพิ่มความมั่นใจในทุกสภาวะการลงทุนสร้างสมดุลระหว่างโอกาสการทำกำไรและการจัดการความเสี่ยง โดยมุ่งช่วยนักลงทุนจัดการพอร์ตให้เหมาะสมในทุกสภาวะตลาด ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวให้พร้อมรับโอกาสในช่วงตลาดขาขึ้น หรือการป้องกันการขาดทุนในช่วงตลาดขาลง
สำหรับกลยุทธ์ orbix BE Smart Capture หนึ่งในจุดเด่นของกลยุทธ์นี้คือ ความยืดหยุ่นในการจัดพอร์ตการลงทุน ที่สามารถปรับลดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลกลับมาเป็นเงินบาทได้ถึง 50% ในสถานการณ์ตลาดขาลงหรือช่วงที่ราคาสินทรัพย์ปรับลดลงรุนแรง เพื่อ Cut loss และเมื่อถึงจังหวะตลาดขาขึ้นก็สามารถปรับพอร์ตกลับเข้าสู่สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อสร้างโอกาสผลตอบแทนตามเป้าหมายได้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท และมีระดับความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 9
ดร.ธนภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้ง Tailor-Made Strategy และ Be Smart Capture จะทำให้นักลงทุนสามารถมั่นใจได้ว่าพอร์ตการลงทุนของพวกเขาจะได้รับการดูแลในทุกเป้าหมายการเงิน พร้อมความยืดหยุ่นสูงสุดในทุกสภาวะตลาด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างผลตอบแทนในช่วงตลาดขาขึ้น หรือป้องกันความเสี่ยงในช่วงตลาดขาลง
คำเตือน : คริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุน ให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้